Custom Search By Google

Search By Google

วันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551

1 Corinthians Chapter 13





Though I speak with the tongues of men and of angels, and have not Love, I am become as sounding brass, or a tinkling cymbal. And though I have the gift of prophecy, and understand all mysteries, and all knowledge; and though I have all faith, so that I could remove mountains, and have not Love, I am nothing. And though I bestow all my goods to feed the poor, and though I give my body to be burned, and have not Love, it profiteth me nothing.

Love suffereth long, and is kind;
Love envieth not;
Love vaunteth not itself, is not puffed up,
Doth not behave itself unseemly,
Seeketh not her own,
Is not easily provoked,
Thinketh no evil;
Rejoiceth not in iniquity, but rejoiceth in the truth;
Beareth all things, believeth all things, hopeth all things, endureth all things.

Love never faileth: but whether there be prophecies, they shall fail; whether there be tongues, they shall cease; whether there be knowledge, it shall vanish away. For we know in part, and we prophesy in part. But when that which is perfect is come, then that which is in part shall be done away. When I was a child, I spake as a child, I understood as a child, I thought as a child: but when I became a man, I put away childish things. For now we see through a glass, darkly; but then face to face: now I know in part; but then shall I know even as also I am known. And now abideth faith, hope, Love, these three; but the greatest of these is Love.
1 Corinthians 13

วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

มัธทิว Metthew




ขอ หา เคาะ
มัทธิว 7:7-12

7. จงขอและแล้วจะได้ จงหาและจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน
8. เพราะว่าทุกคนที่ขอก็ได้ ทุกคนที่แสวงหาก็พบ ทุกคนที่เคาะก็จะเปิดให้เขา
9. ในพวกท่านมีใครบ้างที่จะเอาก้อนหินให้บุตร เมื่อเขาขอขนมปัง
10. หรือให้งูเมื่อบุตรขอปลา
11. เหตุฉะนั้น ถ้าท่านทั้งหลายเองผู้เป็นคนบาป ยังรู้จักให้ของดีแก่บุตรของตน ยิ่งกว่านั้นสักเท่าใดพระบิดาผู้ทรงสถิตในสวรรค์จะประทานของดีแก่ผู้ที่ขอต่อพระองค์
12. จงปฏิบัติของผู้อื่นอย่างที่ท่านปราถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน นั้นคือธรรมบัญญัติและคำสั่งสอนของบรรดาผู้เผยพระวจนะ

ประตูคับแคบ
มัทธิว :13-14
13. จงเข้าทางประตูแคบ เพราะว่าประตูใหญ่ และทางกว้างซึ่งนำไปถึงความพินาศ และคนที่เข้าไปทางนั้นก็มีมาก
14. เพราะว่าประตูซึ่งนำไปถึงชีวิตนั้นก็คับและทางก็แคบ ผู้ที่หาพบก็มีน้อย

รากฐานสองชนิด
มัทธิว 7:24-27

24. เหตุฉะนั้นผู้ใดที่ได้ยินคำเหล่านี้ของเราและประพฤติตามเขาก็เปรียบเสมือนผู้ที่มีสติปัญญาสร้างเรือนของตนไว้บนศิลา
25. ฝนก็ตกและน้ำก็ไหลเชี่ยว ลมก็พัดปะทะเรือนนั้น แต่เรือนมิได้พังลงเพราะว่ารากตั้งอยู่บนศิลา
26. แต่ผู้ที่ได้ยินคำเหล่านี้ของเรา และไม่ประพฤติตามเล่า เขาก็เปรียบเสมือนผู้ที่โง่เขลา สร้างเรือนของตนไว้บนทราย
27. ฝนก็ตกและน้ำก็ไหลเชี่ยว ลมก็พัดปะทะเรือนนั้น เรือนนั้นก็พังทลายลง และการซึ่งพังทลายนั้นก็ใหญ่ยิ่ง

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2551

สดุดี23 Psalm23



สดุดี23:1-6
พระเจ้าทรงเลี้ยงดูข้าพเจ้าดุจเลี้ยงแกะ
เพลงสดุดีของดาวิด

23:1 พระเยโฮวาห์ทรงเป็นผู้เลี้ยงดูข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน
23:2 พระองค์ทรงกระทำให้ข้าพเจ้านอนลงที่ทุ่งหญ้าเขียวสด พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปริมน้ำแดนสงบ
23:3 พระองค์ทรงฟื้นจิตวิญญาณของข้าพเจ้า พระองค์ทรงนำข้าพเจ้าไปในทางชอบธรรม เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์
23:4 แม้ข้าพระองค์จะเดินไปตามหุบเขาเงามัจจุราช ข้าพระองค์ไม่กลัวอันตรายใดๆ เพราะพระองค์ทรงสถิตกับข้าพระองค์ คทาและธารพระกรของพระองค์เล้าโลมข้าพระองค์
23:5 พระองค์ทรงเตรียมสำรับให้ข้าพระองค์ต่อหน้าต่อตาศัตรูของข้าพระองค์ พระองค์ทรงเจิมศีรษะข้าพระองค์ด้วยน้ำมัน ขันน้ำของข้าพระองค์ก็ล้นอยู่
23:6 แน่ทีเดียวที่ความดีและความเมตตาจะติดตามข้าพเจ้าไปตลอดวันคืนชีวิตของข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะอยู่ในพระนิเวศของพระเยโฮวาห์สืบไปเป็นนิตย์

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ความดีเลิศของพระธรรมพระเจ้า






(ก) สดุดี 119:1-8

1.บรรดาผู้ที่ดีรอบคอบในทางของเขาก็เป็นสุข
คือผู้ที่ดำเนินตามพระธรรมของพระเจ้า
2.ผู้ที่รักษาบรรดาพระโอวาทของพระองค์ก็เป็นสุข
คือผู้ที่แสวงหาพระองค์ด้วยสุดใจ
3.ผู้ที่ไม่กระทำผิด
แต่เดินตามบรรดาพระมรรคาของพระองค์
4.พระองค์ได้ทรงตั้งข้อบังคับของพระองค์ไว้ให้เราทั้งหลายปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
5.โอ ขอให้ทางทั้งหลายของข้าพระองค์มั่นคง ในการรักษากฎเกณฑ์ของพระองค์
6.แล้วข้าพระองค์จะไม่ได้รับความอาย
โดยจดจ่ออยู่ที่พระบัญญัติทั้งสิ้นของพระองค์
7.ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ด้วยใจเที่ยงตรง
เมื่อข้าพระองค์เรียนรู้กฎหมายอันชอบธรรมของพระองค์
8.ข้าพระองค์จะถือกฎเกณฑ์ของพระองค์
ขออย่าทอดทิ้งข้าพระองค์เสียอย่างสิ้นเชิงเลย

(ข) สดุดี 119:9-16

9.หนุ่มๆจะรักษาทางของตนให้บริสุทธิ์ได้อย่างไร
โดยระแวดระวังตามพระวจนะของพระองค์
10.ข้าพระองค์แสวงหาพระองค์ด้วยสุดใจของข้าพระองค์
ขออย่าให้ข้าพระองค์หลงไปจากพระบัญญัติของพระองค์
11.ข้าพระองค์ได้สะสมพระดำรัสของพระองค์ไว้ในใจของข้าพระองค์
เพื่อข้าพระองค์จะไม่ทำบาปต่อพระองค์
12.ข้าแต่พระเจ้า สาธุการแด่พระองค์
ขอทรงสอนกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ข้าพระองค์
13.ข้าพระองค์จะประกาศด้วยริมฝีปากของข้าพระองค์
ถึงบรรดากฎหมายแห่งพระโอษฐ์ของพระองค์
14.ข้าพระองค์ปีติยินดีในทางแห่งบรรดาพระโอวาทของพระองค์
มากมายเท่ากับในความมั่งคั่งทั้งสิ้น
15.ข้าพระองค์จะภาวนาข้อบังคับของพระองค์
และจับตาของข้าพระองค์อยู่ที่วิถึทั้งหลายของพระองค์
16.ข้าพระองค์จะปีติยินดีในกฎเกณฑ์ของพระองค์
ข้าพระองค์จะไม่ลืมพระวจนะของพระองค์

(ค) สดุด119:17-24

17. ขอทรงโปรดปรานผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะมีชีวิตและจะถือพระจวนะของพระองค์
18. ขอเบิกตาข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะเห็น สิ่งมหัศจรรย์จากพระธรรมของพระองค์
19. ข้าพระองค์เป็นคนพเนจรบนแผ่นดินโลก ขออย่าทรงซ่อนพระบัญญัติของพระองค์จากข้าพระองค์เสีย
20. จิตใจของข้าพระองค์เร่าร้อนด้วยคำนึงถึงกฎหมายของพระองค์ตลอดเวลา
21. พระองค์ทรงขนาบคนยโส คนถูกสาป ผู้เตลิดไปจากพระบัญญัติของพระองค์
22. ขอทรงนำการดำและการประมาทไปจากข้าพระองค์ เพราะข้าพระองค์ได้รักษาบรรดาพระโอวาทของพระองค์
23. ถึงแม้เจ้านายนั่งปรึกษากันต่อสู้ข้าพระองค์ ผู้รับใช้ของพระองค์และภาวนากฎเกณฑ์
24. บรรดาพระโอวาทของพระองค์เป็นความปิติยินดีของข้าพระองค์ เป็นที่ปรึกษาของข้าพระองค์

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2551